พม่าเปิดประตูด่านชายแดน 4 แห่ง ก้าวแรกสู่การเปิดโลกทัศน์ชาวพม่า
โดย : สมจิต รุ่งจำรัสรัศมี / รายงาน
สำนักข่าวอะลามี่ : นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของประเทศพม่าหรือ เมียนม่าร์ ที่เปิดประตูบ้านด่านชายแดนไทย – พม่า ถึง 4 แห่ง โดยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ สามมารถใช้วีซ่าเดินทางเข้า – ออก ในประเทศผ่านด่านพรมแดนไทย – พม่า และเข้าไปพื้นที่ชั้นในได้ทุกเมือง
จากเดิม พม่า อนุญาตให้เพียงทำบัตรผ่านแดนเข้าประเทศได้แค่พื้นที่ชายแดนเท่านั้น หรือ ไป – กลับ ในวันเดียวกัน ไม่มีโอกาสไปนอนพักค้างคืนในฝั่งพม่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การเปิดประตูบ้านครั้งนี้ พม่าได้อนุญาต ให้นักเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าประเทศ ได้ทั้งหมด 4 ช่องทาง คือ แม่สอด – เมียวดี จ.ตาก , ด่านท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย จ.แม่ฮ่องสอน , ด่านสิงขร จ.กาญจนบุรี และที่เกาะสอง จังหวัดระนอง
การเปิดด่านพรมแดนของพม่า ที่ให้ชาวต่างชาติใช้วีซ่าเข้าประเทศ นับเป็นการก้าวกระโดดของรัฐบาลพม่า ที่เริ่มพัฒนาเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาการเมืองควบคู่ไปด้วย
ขณะเดียวกันก็สร้างความปรองดองกับชนกลุ่มน้อย ที่เคยต่อต้านรัฐบาลพม่ามาตั้งแต่สมัย นายพลเนวิน อดีตผู้นำรัฐบาลพม่า เช่นกัน
ล่าสุด นายอูขิ่น ยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนเข้าเมืองพม่า และ นายอูเท อ่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟพม่า ได้เป็นประธานในพิธีเปิดด่านให้ชาวต่างชาติเข้า – ออก ประเทศด้านชายแดนอำเภอแม่สอด โดยบอกว่า การเปิดด่านพรมแดนครั้งนี้ เป็นผลประโยชน์ของประเทศพม่าและประชาชนทุกพื้นที่ชายแดน ที่จะทำให้มีการสร้างงานสร้างรายได้ และจะทำให้ประชาชนชาวไทย กับชาวพม่า ไปมาหาสู่กันได้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้า- ออก ทุกช่องทางที่กำหนดได้
ขณะเดียวกันพม่าได้อนุญาต ให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าพม่าได้ทางเส้นทางการบินระหว่างอำเภอแม่สอด- เมืองมะละแหม่ง และอำเภอแม่สอด – เมืองย่างกุ้ง ในเดือนกันยายน และตุลาคม 2556 และทำขยายเส้นทางการบินจากพม่าไปยังประเทศอื่นๆและเมืองอื่นๆอีกต่อไป
นี่คือความก้าวหน้าของประเทศพม่า ที่มีการพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่า ได้รุกคืบล้ำหน้าประเทศไทยไปแล้วในระดับหนึ่ง
และที่น่าสนใจ พม่ามีความหลากหลายวัฒนธรรม มีกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากมายหลายกลุ่ม มีความหลากหลายวัฒนธรรมประเพณี และศาสนาต่างๆ เช่น ศาสนาพุทธ อิสลาม และศาสนาคริสต์ เป็นต้น
การให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจากต่างชาติใช้วีซ่าเป็นใบเบิกทางเข้าไปในประเทศพม่าได้ โดยไม่จำกัดพื้นที่ จะทำให้ชาวพม่ามีรายได้ มีงานทำ และเปิดโลกทัศน์ให้ชาวพม่า มีหูตากว้างขวางมากขึ้นในด้านทัศนคติ ซึ่งจะทำให้ความขัดแย้งของคนในชาติ มีความรู้ มีความเข้าใจ และอยู่ร่วมกันอย่างสันติมากขึ้น
เพราะอดีตพม่าปิดประเทศมานานเกือบ 70 ปี ตั้งแต่มีการปฏิวัติของชนกลุ่มน้อย โดยจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า มาจนถึงศตวรรษนี้
วันนี้จึงถือว่า เป็นวันเสียงปืนดับ ที่จะนำพาพม่าไปสู่ความเป็นอารยะประเทศในอนาคตต่อไป