มุสลิมไทยเข้าถึง”ตะกาฟุล”แค่1% จับตาหลัง AECเปิดตลาดสดใส

              สำนักข่าวอะลามี่ : ผู้บริหารอาคเนย์ตะกาฟุล เผยมุสลิมเข้าถึงระบบประกันภัยแค่1% จากจำนวนประชากรมุสลิมในประเทศไทย คาดธุรกิจสะพัดกว่า100ล้านบาท ชี้หากAEC เปิดหวั่นมาเลย์ รุกตลาดแนะผู้ประกอบการปรับตัวเปิดดำเนินการ

             นายวันอับดุลเลาะห์ หล๊ะติหมะ เจ้าหน้าที่อาวุโส ฝ่ายตัวแทน-ธุรกิจองค์กร บริษัท อาคเนย์ประกันภัยจำกัด (ดูแลเขตงานภาคใต้ อาคเนย์ ตะกาฟุล) กล่าวว่าในหลักปฎิบัติอิสลาม 1ใน5 ข้อได้กล่าวถึงหลักเศรษฐศาสตร์ นั่นคือระบบซาก๊าต ทั้งนี้การประกันภัยให้กับชีวิต นับเป็นหนึ่งในระบบเศรษฐกิจของอิสลาม แต่หลักประกันจะต้องดำเนินการบนหลักการชาริอะห์

            “สังคมไทยยังเข้าใจเรื่อง การประกันชีวิต น้อยมาก ทั้งๆที่ประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของคนในโลกนี้ซึ่งอาจแยกคำออกเป็นสองส่วนคือประกัน หมายถึงการรับรอง ส่วนชีวิตหมายถึง การเป็นอยู่ “

             นายวันอับดุลเลาะห์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การทำประกันภัยตะกาฟุล เป็นการสร้างหลักประกันให้กับตัวเองและคนข้างหลัง สร้างความมั่นคงในครอบครัว ซึ่งเป็นไปตามพื้นฐานของหลักการอิสลาม

            “ปัจจุบันระบบเงินฝาก ของตะกาฟุล แบ่งการบริหารเงินออกเป็น3ส่วนคือ วากาละห์ คือส่วนของค่าทำเนียบและการบริหารจัดการ ส่วนที่สองตะบารุฮ์ คือระบบเงินกองกลางและมูดอรอบะห์ คือเงินฝาก ซึ่งเรานำเงินทั้งหมดฝากกับธนาคารอิสลามเพื่อนำไปลงทุนตามสัญญา เพื่อนำกำไรมาคืนกับสมาชิกต่อไป”

             อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการรับรู้ของตะกาฟุลในเมืองไทย ยังน้อยมาก หากเทียบกับธุระกิจประกันแบบอื่น โดยเพิ่งจะรับรู้กว้างขวางมากขึ้นหลังจากที่มีการจัดตั้งธนาคารอิสลามฯเกิดขึ้นในเมืองไทย เนื่องจากการฝากเงินจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อต้องฝากกับธนาคารอิสลามฯ เท่านั้น

            นายวันอับดุลเลาะห์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันธุรกิจตะกาฟุลในเมืองไทยที่ดำเนินธุรกรรมด้านตะกาฟุล มี 3 บริษัท คือ  เมืองไทยตะกาฟุล และอาคเนย์ตะกาฟุล และทิพย ตะกาฟุล ส่วน ฟินันซ่าตะกาฟุล ปัจจุบันหยุดรับสมาชิก (แต่ยังคงดูแลสมาชิกเก่าไปตามสัญญาเดิม)

            สำหรับในส่วนของ อาคเนย์ตะกาฟุล ให้บริการครบวงจรธุรกิจประกัน ทั้งระบบประกันภัย และระบบประกันชีวิต ซึ่งดำเนินการบนพื้นฐานของการระบบตะกาฟุล สำหรับการตลาดในภาคใต้ หลังจากที่บริษัทเปิดดำเนินการธุรกิจด้านนี้มา2ปี จะขยายและสร้างตัวแทนให้ครบ100%

            อย่างไรก็ตามธุรกิจตะกาฟุลในกลุ่มมุสลิมถือว่ายังเข้าถึงระบบประกันภัยที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับตลาดประกันภัย คาดว่ามีประมาณ 1%ของจำนวนประชากรมุสลิมในประเทศ หรือประมาณ10ล้านคน ที่เข้าถึงระบบประกันภัย ซึ่งหากมองการตลาดแล้วเชื่อว่ายังเป็นตลาดใหญ่ เพียงแต่ยังเข้าไปไม่ถึงผุ้บริโภคเท่านั้นและคาดว่าตลาดรวมของตะกาฟุลในเมืองไทยปัจจุบันน่าจะสะพัดมากกว่า100ล้านบาท

             “ในส่วนของการตลาดนั้นขณะนี้อาคเนย์ตะกาฟุล กำลังเจรจากับเครือข่ายสหกรณ์อิสลามภาคใต้ ในการเข้าไปดุแลเรื่องหลักประกันสินเชื่อ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้”

            นายวันอับดุลเลาะห์ กล่าวถึงอนาคตของธุรกิจตะกาฟุลว่าปัจจุบันพบว่ามาเลเซีย มีความเชียวชาญเรื่องระบบตะกาฟุ้ลมาก นอกจากนี้พบว่าสถาบันการเงินของมาเลเซีย เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า หลังเปิดประชาคมอาเซียน(AEC) ธุรกิจนี้จะคึกคักมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจำเป็นอย่างที่จพะต้องปรับตัวและที่สำคัญ จะต้องดำเนินการอย่างสมบูรณ์มากขึ้นไม่ใช่เป็นุรกิจแฝงเหมือนในปัจจุบันนี้


ตีพิมพ์ครั้งแรก:นิตยสาร ดิ อะลามี่ ฉบับมิถุนายน 2556