รมต.สาธารณสุขเยี่ยมเหยื่อระเบิดคาร์บอมบ์สุไหงโก-ลก

              สำนักข่าวอะลามี่ : "วิทยา บูรณศิริ" รัฐมนตรี สาธารณสุข ลงใต้เยี่ยมเหยือคาร์บอมบ์โกลก บอกรัฐบาลพร้อมอัดงบซื้ออุปกรณ์สนับสนุนทางการแพทย์หวังเพิ่มประสิทธิภาพ สรุปตัวเลขเหยื่อบาดเจ็บ115คน ตาย5 ล่าสุดยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลโก-ลกอีก 18ราย

               เมื่อเวลา  11.30 น. วันที่  19  กันยายน  2554  นายวิทยา บุรณศิริ   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมคณะเดินทางไปยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก  อ.สุไหงโก-ลก จ, นราธิวาส เพื่อไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด กลางในเมืองสุไหงโก-ลก ทั้ง จยย.บอมบ์และคาบอมบ์  มี นายแพทย์ธงชัย  เลิศวิไลรันตพงส์  ผอ.โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ

                จากนั้นคณะได้ขึ้นไปตรวจเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมมอบกระเช้าให้เป็นกำลังใจ  ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ได้กล่าวว่า  ด้วยนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุในครั้งนี้จึงให้มาเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ทุกคน และถือว่าเหตุระเบิดในครั้งนี้ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เกิดความไม่สงบมาตั้งแต่ปี 2547   

             " ต้องชื่นชมทีมแพทย์ของโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ที่สามารถดูแลช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างดีและรวดเร็วทันการณ์  รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ-เอกชน  ส่วนระบบและสถานที่ของโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ทางรัฐบาลจะจัดงบประมาณจัดซื้อและสร้างสิ่งช่วยเหลือประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น "นายวิทยา ก่าวและว่า

            พร้อมกันนี้ ทางรัฐบาลก็ให้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งแพทย์และพยาบาลทุกคนและให้รักษามาตรฐานให้ดีพร้อมพัฒนาให้มากยิ่งขึ้นจะเป็นความหวังและที่พึ่งของประชาชนต่อไป  

              ด้าน นายแพทย์ไพจิตร์   วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวเสริมว่า  สรุปผู้ประสบเหตุทั้งหมด  115  คน   กลับบานไปแล้ว  85 คน  เสียชีวิต  5 คน และยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก  18  ราย มี ร.อ. ธีระพงษ์ สุวรรณเวช ผบ.ร้อย.ร.1922 ฉก.นราธิวาส 36 ยังอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. แต่ปลอดภัยแล้ว

             ส่วนคนอื่นๆอาการปลอดภัย แต่มีผลกระทบด้านจิตใจ นอนไม่หลับ หวาดกลัว  วิตกกัวกลเรื่องธุรกิจการค้าที่จะตามมาก็ให้นักจิตวิทยาคอยติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด, โรงพยาบาลศูนย์ยะลา  4 ราย  เป็นชายทั้งหมด ในจำนวนนี้มีชาวมาเลเซีย 1 คน อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว  ส่วนอีก 3 ราย  นอนอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู.  2 ราย อยู่ในขั้นวิกฤตใช้เครื่องหายในตลอดเวลา มีบาดแผลสะเก็ดและไฟไหม้