Education
Home   /   Education  /    นักศึกษามุสลิมไทยร่วมบำเพ็ญประโยชน์ ม.อัลอัซฮัร

นักศึกษามุสลิมไทยร่วมใจบำเพ็ญประโยชน์ ม.อัลอัซฮัร

โดย ดลหมาน ผ่องมะหึง ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอะลามี่

         ประจำกรุงไคโร ประเทศอิยปต์

          สำนักข่าวอะลามี่ : โครงการคลีนนิ่งเดย์ “รวมใจทำความสะอาดมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร คณะนิติศาสตร์อิสลาม” เป็นโครงการทดแทนคุณ เสริมสร้างสัมพันธ์ด้วยใจของนักศึกษามุสลิมไทย และ เป็นโครงการตัวอย่างซึ่งได้รับการยกย่องจากแกรนด์อีหม่าม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของมหาวิทยาลัยฯ กว่ากึ่งศตวรรษ ที่นักศึกษามุสลิมไทยได้เดินทางมาศึกษาศาสนา ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้

 

          ไม่ว่านักศึกษาในระดับเริ่มต้นศึกษาภาษาอาหรับ ระดับประถม มัธยม และ เข้าสู้ระดับมหาวิทยาลัย  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 จนถึงปัจจุบัน  57 ปีมาแล้ว การบำเพ็ญตนของนักศึกษามุสลิมไทยในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการต้อนรับสู่การเปิดเทอมใหม่ ศักราชใหม่ ของการปกครองประธานาธิบดีคนใหม่ด้วยเช่นกัน

          นายชัยณรงค์ กีรติยุตวงศ์  อัครราชทูตไทยประจำกรุงไคโร บอกว่า  “ในรอบหลายปีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของนักศึกษาไทยในอียิปต์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการส่งเสริมความสามัคคี  ทักษะทางการศึกษา  สุขอนามัย  ศาสนา  และกีฬา ฯลฯ   โดยหวังให้กิจกรรมเหล่านั้นฝึกฝนวิธีคิด พัฒนาทักษะการทำงาน และเปิดมุมมองต่อโลกภายนอกของนักศึกษาให้กว้างขึ้น

        ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ผมจึงเห็นว่า ควรจะหากิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมทั้งฝ่ายจัดงานและฝ่ายเข้าร่วมงานได้ประโยชน์ใกล้เคียงกัน และมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นฐานจิตใจมุ่งส่วนรวมเป็นหลักจนนำมาสู่การจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะของนักศึกษาไทยในอียิปต์ในครั้งนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ สร้างความสามัคคีและความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยในหมู่นักศึกษา อันจะทำให้ชุมชนไทยในอียิปต์มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น  เสริมสร้างคุณลักษณะของนักศึกษาให้เป็นผู้ที่รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม

           อัครราชทูตไทยประจำกรุงไคโร  กล่าอีกว่า ต่อไปจะได้กลับไปเป็นช่วยพัฒนาสังคมไทยต่อไป ให้หน่วยงานและสาธารณชนอียิปต์ ชื่นชมประเทศไทยและนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ในอียิปต์ อันเป็นส่วนหนึ่งการดำเนินการเชิงการทูตสาธารณะ (public diplomacy) โดยหวังว่า กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์นี้จะช่วยพัฒนาวิธีคิดและมุมมองของนักศึกษาไทยในอียิปต์ให้เป็นผู้ที่รู้จักเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และที่สำคัญ ทำให้นักศึกษาเห็นคุณค่าและ ตระหนักถึงความสุขที่เกิดจากการให้ซึ่งเรากำหนดตัวเองได้ แทนที่จะเป็นการเรียกร้องแสวงหาจากผู้อื่นซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเรา

         “ โครงการนี้ได้รับการตอบสนองจาก Grand Sheikh of Al Azhar  ผู้นำสูงสุดของศาสนาอิสลาม ของอียิปต์ด้วยดี เมื่อเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ท่านทราบว่าสถานเอกอัครราชทูตฯ จะร่วมกับนักศึกษาไทยทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนคุณของมหาวิทยาลัยที่ให้การศึกษาแก่นักศึกษาไทยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 50 ปี  ท่านบอกว่า ดีใจมากที่ฝ่ายไทยคิดทำโครงการดีๆ เช่นนั้น และอยากได้ยินมานานแล้ว อีกทั้งหวังว่ากิจกรรมแบบนี้จะช่วยกระตุ้นให้นักศึกษาอียิปต์และชาติอื่นๆ คิดจะทำตามบ้าง  พร้อมทั้งรับที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่” นายชัยณรงค์ กล่าว.

            นายศักดิ์ดา โซ๊ะเฮง  นายกสมาคมนักเรียนไทยฯปี 2555  บอกว่า  นักศึกษาเข้าร่วมโครงการมีทั้งหมดกว่า 130 คน โดยความร่วมมือ 3 หน่วยงาน คือ ส่วนของสถานเอกอัครราชทูตฯ  สมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรฯ  และ ชมรมนักเรียนไทยในกรุงไคโร

         ทั้งนี้เริ่มจากทั้ง 3 หน่วยงาน มีการไปประชุมเตรียมการกับทางผู้แทนสูงสุดของแกรนด์อีหม่าม ซัยยิด อะหมัด ตัยยิบ  อธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปวันทำโครงการ รูปแบบ วิธีการ หลังจากนั้นก็ได้ประสานกับประธานชมรมและประชาสัมพันธ์จนถึงนักศึกษาทั่วไปตามรายละเอียดต่าง ส่วนวันทำความสะอาด ได้แบ่งนักศึกษาออกเป็น 4 ทีม ทีมสีเหลือง ทีมสีแดง ทีมสีฟ้า และทีมสีน้ำเงิน ทั้งนี้เนื่องจาก คณะนิติศาสตร์อิสลามมี 4 ชั้นด้วยกัน ใช้เวลาทำความสะอาด 7 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

        “ ผมรู้สึกประทับใจกับการทำความสะอาดครั้งนี้ และเป็นครั้งแรกของนักศึกษาไทย ได้พร้อมใจบำเพ็ญประโยชน์ให้กับ มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ประทับใจ ที่ได้เห็นความสามัคคี และความอิ่มอกอิ่มใจ แม้งานจะเหนื่อยมากก็ตาม สิ่งที่ไม่พบในโครงการอื่นคือ ความเหน็ดเหนื่อยไม่ทำให้ใครบ่น ย่อท้อ และท้อถอยเลย เพราะในใจทำด้วยความรักต่อสถาบันจริงๆ การทำงานในครั้งนี้สอนให้ผมรู้ว่า หากทำในสิ่งที่เรารัก เราก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอกเลย”นายศักดิ์ดา กล่าวและว่า

          นับว่าเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญโครงการหนึ่งตั้งแต่ที่มีกิจกรรมขึ้นมาของสมาคมนักเรียนไทย ในประเทศอียิปต์ การบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ในครั้งนี้ คือ ผลดีที่จะเกิดขึ้นกับสังคมของนักศึกษาไทยเราเอง และยังเป็นความสำเร็จอีกก้าวของการเข้าไปสู่ความคุ้นเคยเป็นกันเองกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของผู้ปกครอง มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร  ด้วย