เปิดป้ายมัสยิด”อัน-นูรปากีสตาน”จังหวัดยะลา
สำนักข่าวอะลามี่ : “อารีย์ วงค์อารยะ”ผู้แทนจุฬาราชมนตรี ประธานเปิดป้ายมัสยิดอัน-นูรปากีสตาน ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นมัสยิดมุสลิมสายปาทาน หวังเชื่อมสัมพันธ์คนในพื้นที่มากขึ้น
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2555 เวลา 11.00 น. ที่ มัสยิดอัน-นูรปากีสตาน ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา นาย อารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนจุฬาราชมนตรี เป็นประธานในงานเปิดป้ายมัสยิดอัน-นูรปากีสตาน ซึ่งตั้ง ณ ถนนสิโรรส ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา, พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จังหวัดสงขลา, เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, ฮัจยีอนุมัติ อาหมัด รองนายกสมาคมมิตรภาพไทย-ปากีสตาน, กำนัน สวาป เผ่าประทาน รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, ฮัจยีไชยา สกุลชาร์ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, นายกสมาคมมิตรภาพไทย-ปากีสถาน และผู้มีเกียรติ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมในงาน
สำหรับมัสยิดอัน-นูรปากีสตาน เดิมใช้ชื่อว่า มัสยิดปากีสถาน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยประมาณปี พ.ศ.2473โดยเชื้อสายปาทานซึ่งอพยพมาจากประเทศปากีสถาน มาอาศัยในในแผ่นดินสยาม และรวมตัวกันอาศัยอยู่ริมแม่น้ำปัตตานีในพื้นที่ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลาในปัจจุบัน โดยร่วมกันก่อสร้างมัสยิด เพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ ใกล้แม่น้ำปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน ต่อมาคณะกรรมการมัสยิดในสมัยนั้นได้ยื่นขอจดทะเบียนต่อทางราชการในนาม มัสยิดปากีสถาน เมื่อวันที่ 28ธันวาคม 2496
ต่อมาในปี พ.ศ.2553 คณะกรรมการมัสยิด และสัปบุรุษประจำมัสยิดได้พิจารณาให้มีการก่อสร้างอาคารมัสยิดหลังใหม่ทดแทนอาคารเดิมที่ทำด้วยไม้ ที่มีสภาพผุพัง ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่เข้ามาประกอบศาสนกิจได้ พร้อมก่อสร้างหอถังเก็บน้ำสูงและรั้วรอบบริเวณ โดยมอบหมายให้ นายนราธรณ์ อับดุลลา ทำหน้าที่ประธานโครงการฯ ประกอบกับเนื่องจากมัสยิดตั้งอยู่ในชุมชนและบริเวณใกล้เคียงกับหน่วยราชการที่มีประชาชนมาติดต่อเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่เพื่อประกอบศาสนกิจที่เพียงพอ เพื่อรองรับพี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาในการปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งในการร่วมละหมาดญะมาอะฮฺ จะมีผู้มีศรัทธาร่วมละหมาดจำนวนหลายร้อยคน
นาย อารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งอาคารมัสยิดหลังใหม่ ตามดำริความคิดเห็นของคณะกรรมการประจำมัสยิด ซึ่งจะไม่สำเร็จได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ ความร่วมไม้ ร่วมมือ ความมีน้ำใจ ความผูกพันต่อกัน จากพี่น้องทั้งจากเชื้อสายปาทาน และจากพี่น้องจากประเทศไทย ซึ่งพี่น้องเชื้อสายปากี ที่เข้ามาใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของประเทศไทย และได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยเหลือกับทุกภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อก่อให้เกิดความเจริญ รุ่งเรือง
โดยเฉพาะให้เกิดความสันติภาพ และหนึ่งในกิจกรรมที่พี่น้องเชื้อสายปากีได้ทำอยู่ก็คือ การก่อตั้งสมาคมมิตรภาพไทย-ปากีสถาน ซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร และในอนาคตอันใกล้ ซึ่งอาจจะมีกิจกรรมและร่วมทำประโยชน์ให้กับพี่น้องในพื้นที่จังหวัดยะลา มากขึ้น