สถานทูตซาอุฯจัดอบรม”มุสลิมใหม่”ต่อยอดศรัทธา
โดย: เฉลิมขวัญ ศรีบุญเรือง รายงาน
สำนักข่าวอะลามี่: กระทรวงกิจกรรมศาสนาอิสลาม สถานทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย ร่วมกับสมาคมอิสลามเพื่อการศรัทธาและพัฒนาสังคม จัดอบรมสัมมนา”มุอัลละฟะฮ์กุลูบุฮุ่ม” เพื่อการพัฒนาตนเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์
นายมนัส (ฮัจยีมุฮัมมัด) นานา นายกสมาคมอิสลามเพื่อการศรัทธา และพัฒนาสังคม กล่าวถึง การอบรมสัมมนา มุอัลละฟะฮ์กุลูบุฮุ่ม ในวันที่ 7-8 มกราคม 2555 ณ โรงแรมนิวเวิลด์ ซิตี เขตพระนคร กรุงเทพฯ ว่า มีผู้เข้าร่วมอบรมสัมมนา รวมทั้งหมด109 คน จำนวนนี้เป็นชายคน 22 และเป็นหญิง 87 คน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้เข้าใจหลักอิสลามที่ถูกต้องเพื่อเป็นพื้นฐานของชีวิตที่มั่นคง มีความรู้หลักการศรัทธาที่บริสุทธิ์ เข้าใจหลักปฏิบัติเบื้องต้นที่ถูกต้อง และเห็นคุณค่าถึงหลักคุณธรรมอิสลาม
นอกจากนี้ผู้เข้ารับการอบรม จะได้ร่วมกันสร้างเครือข่ายเพื่อเป็นการช่วยเหลือกันและกัน และมีแหล่งต่อยอดความรู้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่จะพัฒนาการเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์อย่างยั่งยืน
“ ต้องขอขอบคุณ ฝ่ายกิจกรรมศาสนาอิสลาม กระทรวงกิจการศาสนาอิสลามฯสถานทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทย โดยเฉพาะท่านเชคมุฮัมมัด บิน อะหมัด อัลอุซอยมี หัวหน้าฝ่ายศาสนา ที่ได้สนับสนุนงบประมาณ ตลอดจนได้มอบหนังสือศาสนาที่ทรงคุณค่าหลายเล่ม ให้กับผู้ร่วมเข้าอบรมสัมมนา และได้สนับสนุนวิทยากรที่ให้ความรู้และสิ่งดีงามของอิสลามกับผู้ร่วมสัมมนาและ คุณยาซีน สลักเพชร ที่ประสานงานทำให้งานดำเนินไปได้ด้วยดี “นายมนัส กล่าว
ขณะที่ น.ส.ดวงนภา จันทร (ฮุสนา) อดีตพนักงานธนาคารออมสิน ปัจจุบันธุรกิจส่วนตัว ผู้เข้ารับอิสลามในการอบรมสัมมนาในครั้งนี้อีกคนหนึ่งกล่าวว่า ปลื้มใจและภูมิใจที่ได้เข้ารับอิสลาม ที่ได้กล่าวยอมรับอัลลอฮ์ เป็นพระเจ้า
“ สิ่งที่ได้รับจากการอบรมสัมมนา อิสลามเป็นศาสนาที่ต้องเผยแพร่ความรู้แก่เพื่อนมนุษย์ การครั้งนี้เป็นวิธีเปิดทางให้มนุษย์เคารพกับผู้ที่สร้างมนุษย์(พระเจ้า) จากการฟังบรรยาย ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ ศาสนาเรื่องที่ควรเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน หลักศรัทธา หลักปฏิบัติศาสนา หลักการดำเนินชีวิต ที่สามารถนำมาปฏิบัติในชีวิต “ ดวงนภา กล่าวและว่า
นอกจากนี้ยังได้เพื่อน มองเพื่อนมนุษย์ๆทุกคน และ ทำเพื่ออัลลอฮ์ และเราอยู่เพื่ออัลลอฮ์ วางใจไว้ที่อัลลอฮ์ เราอยู่ในดุนยานี้เป็นโอกาสที่ดีมากที่เราได้เรียนรู้ศาสนา เพราะผู้ไม่มีโอกาส ไม่รู้จักนรกเลย ยิ่งเรารู้เร็วยิ่งดี และเราไม่รู้ว่าอยู่ในโลกนี้ได้นานแค่ไหน อยากให้มีการจัดงานสัมมนานี้อีก” น.ส.ดวงนภา กล่าว
ด้าน นาง พีระพร เตือนสกุล (นูฮา) เจ้าของกิจการสถานีบริการน้ำมัน Esso อ.เทิง จ.เชียงรายซึ่งเข้ารับอิสลาม 1 ปี กว่า กล่าวว่า การเข้าสัมมนาในครั้งนี้ นอกได้ความรู้เพิ่มเติมแล้วยังได้รู้จักเพื่อน จึงอยากให้ต่อยอดการเข้าสัมมนาในครั้งนี้ ให้กับ กลุ่มมุอัลลัฟ ที่ จ.เชียงรายบ้าง
นายธนกร อัจฉริยะศักดา (ฟุรกอน) พนักงานธุรกิจประกันภัย เอไอเอ มุสลิมใหม่ 3 เดือน หนีงในผู้เข้าสัมมนา กล่าวถึง เหตุจูงใจให้เข้ารับอิสลามว่า หลังจากดูรายการศาสนาในทีวีช่วงเดือนรอมฎอน (ช่วงถือศีลอด) ในยินประโยคที่ว่า ”.... ถ้าถือศีลอดได้ พระเจ้าจะให้ของขวัญ .....” จึงสนใจโทรหาเพื่อนที่เป็นมุสลิม และตั้งใจทดลองถือศีลอด จากนั้นเกิดผลดีกับตัวเอง คือ ผลการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดลดลง เพียงแค่วันแรกที่ถือศีลอด
“พระเจ้าคงให้ของขวัญแก่เรา และคงมีอะไรที่มหัศจรรย์อีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ จึงถือศีลอดเรื่อยมาตลอดเดือนรอมฎอน และ ศึกษาในเรื่องพระเจ้าและอิสลามเพิ่มเติม บวกกับพบกับ พี่น้องอิสลามที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น จึงเข้ารับอิสลาม ” ธนกร กล่าวและว่า
การเข้าอบรมครั้งนี้ได้รับข้อมูล หนังสือ เอกสาร เกี่ยวกับศาสนาซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิต และได้รับคำตอบในสิ่งที่ต้องการหาคำตอบ