มัสยิดกลางนครศรีฯเริ่มแล้วคาด 3 ปีเสร็จ        
องค์กรมุสลิมจับมือ อบจ.นครศรีฯ เดินหน้าโครงการก่อสร้างมัสยิดกลางประจำจังหวัดนครศรีฯ เตรียมตั้งเป็น“ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช” คาดใช้งบถึง 150 ล้านบาท

          
             ฮัจยีดีน ยีสมัน รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอส.) ในฐานะที่ปรึกษานายก อบจ.นครศรีฯ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างมัสยิดกลางจังหวัดนครศรีฯ  ซึ่งจะก่อสร้างในบริเวณตลาดช้อย ต.นาทราย คาบเกี่ยวกับ ต.นาเคียน อ.เมือง โดย อบจ.สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง ว่า ขณะนี้ อบจ.ได้จัดงบประมาณเพื่อการถมที่ในงวดแรกแล้ว หลังโครงการผ่านข้อบัญญัติ สภาอบจ.เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และ จะดำเนินการถมภายในไม่กี่วันนี้ 

           โดยเป็นงบประมาณดำเนินการในระยะแรก ถมในจำนวน 2 ไร่ก่อน จากนั้น ปีงบประมาณ 2555 และ 2556 อบจ. ได้ตั้งงบประมาณในข้อบัญญัติไว้แล้ว ปีละ 5 ล้าน และคาดว่าจะตั้งงบต่อๆ ไปในอนาคต ทั้งนี้ อบจ.ได้ซื้อที่ดินเพื่อการนี้ในสมัยที่ผ่านมาเนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา ในราคา 2 ล้านบาท

          อย่างไรก็ตาม สำหรับรูปแบบมัสยิด ยังไม่มีการกำหนด แต่จะมีการขอความคิดเห็นจากพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ก่อน

        "โดยส่วนตัว อยากได้รูปแบบมัสยิดจากประเทศตุรกี  มาเลเซีย หรือบรูไน ทั้งนี้ ปี 2552 ที่ผ่านมา คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดฯ ได้จัดงานระดมทุนไปแล้วในงานเมาลิดกลาง มีผู้บริจาคซื้อดินถมที่ ประมาณ 6 แสนบาท โดยได้รับจากสัปบุรุษมัสยิดทั้ง 120 มัสยิด ทั่วนครศรีฯ และจากภาคส่วนอื่นๆ ด้วย”     

         ฮัจยีดีน กล่าวอีกว่า หากจะให้แล้วเสร็จ คงต้องใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 150 ล้านบาท กรณีนี้จะต้องซื้อที่ดินเพื่อขยายออกไปอีกประมาณ 10 กว่าไร่ รวมประมาณ 20 ไร่ โดยเรื่องนี้ได้มีการเข้าไปพูดคุยเพื่อขอซื้อที่ดินรอบข้างแล้ว ปรากฏว่า เจ้าของที่ดินต้องการขาย แต่ราคามีทีท่าสูงขึ้น แต่เราไม่ได้ติดใจแต่อย่างใด  

         ที่ปรึกษานายก อบจ.กล่าวต่อว่า เป้าหมายที่แท้จริงไม่ได้เป็นแค่มัสยิดกลางเพียงอย่างเดียว ความประสงค์ของนายกและเรา (มุสลิม) ต้องการให้เป็น “ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช”ด้วย

         “ในอนาคต เราอยากขยายเป็นวิทยาลัยอิสลาม จังหวัดนครศรีฯ เพราะเรายังไม่มี เราอยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นศูนย์กลางวิชาการศาสนาอิสลาม ในภาคใต้ตอนบน จะเห็นว่าวันนี้พื้นที่เรามีนักศึกษามุสลิมจากหลายพื้นที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียนกันมาก”

         ส่วนประเด็นที่จะต้องหางบประมาณในจำนวน 150 ล้านจะทำอย่างไร ฮัจยีดีนกล่าวว่า วันนี้ทุกภาคส่วนอยากจะร่วมแล้ว วันนี้เมืองไทยมีศูนย์บริหารฯ แห่งเดียว คือที่หนองจอก เมื่อเราดำเนินโครงการในทำนองนี้ ทุกภาคส่วนก็มีความประสงค์อยากให้เราไปสู่จุดนั้น ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องต่างศาสนิก เพราะเราคิดว่านี่คือหน้าตาของชาวนครศรีฯ 

          “ความเข้าใจของผม เงินในจำนวนนี้ถือว่าไม่มากเลย สำหรับแรงศรัทธาจากพี่น้องชาวไทย ถ้าเราช่วยเหลือกัน ตอนนี้ทางประเทศในตะวันอกกลางหลายประเทศก็รับปากในการช่วยเหลือแล้ว ไม่ว่า บาเรน ซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะองค์กรรอบิเฏาะฮ์ (สันนิบาตมุสลิมโลก) แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเรายังไม่ดำเนินการ เราก็ไปขอเงินเขาเลย เราต้องเริ่มให้เขาเห็นก่อน และตั้งเป้าไว้ว่า ประมาณ 3 ปีคงแล้วเสร็จ” ที่ปรึกษานายก อบจ.กล่าวในที่สุด