พัทลุง รื้อฟื้นจัด “วันอาชูรอ”  คึกคัก หลังจากได้เลิกจัดไปนานร่วม 10 ปี 

โดย อัสวิน  ภัคฆวรรณ

                สำนักข่าวอะลามี่ : พัทลุง รื้อฟื้นจัด “วันอาชูรอ”  คึกคัก หลังจากได้เลิกจัดไปนานร่วม 10 ปี  เป็นวันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า  พร้อมสร้างวัฒนธรรมประเพณี  ให้คนรักกัน สามัคคีกันกลมเกลียวในชุมชน  ทำอาหารหลากหลายชนิดรวมในกะทะเดียวกันมุมมองถึง “ปรัชญา” 

               วันที่ 7 ตุลาคม 2560 ที่มัสยิดบ้านด่านโลด  หมู่ 3 เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง  นายสนธยา ปานหวาน  อิหม่ามมัสยิดบ้านด่านโลด  คณะกรรมการ และที่ปรึกษามัสยิดบ้านด่านโลด  นายโกบ  หวังสัน  ประธานสภาเทศบาลตำบลควนเสาธง  พร้อมด้วยประชาชนในหมู่บ้าน ได้ร่วมกันจัดงานวันอาชูรอ โดยจัดปรุงอาหารรวมในกะทะใบเดียวกัน เป็นอาหารพิเศษ มีเกียรติ เพื่อขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าอัลเลาะห์

             นายสนธยา  ปานหวาน  อิหม่ามมัสยิดบ้านด่านโลด กล่าวว่า วันอาชูรอ  เป็นการจัดกิจกรรมขอบคุณอัลเลาะห์ และ ได้จัดเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ยาวนานมาแล้ว และยังได้สร้างความความรักความผูกพัน ความสามัคคี ของคนในชุมชนให้แน่นแฟ้นเป็นกลุ่มก้อนปึกแผ่นขึ้น

           “ แต่มาภายหลังมัสยิดบ้านด่านโลด ได้หยุดจัดงานวันอาชูรอไปนานนับสิบปี   จึงได้มีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งสมัยก่อนจะมีการจัดงานวันอาชูรอกันแทบทุกชุมชน”

           

           นายสนธยา กล่าวอีกว่า  วันอาชูรอ ตรงกับในวันที่ 10 ของเดือนมุฮัรรอม ตามปฎิทินอิสลาม มีความเป็นมาและมีประวัติศาสตร์ มากมาย อาทิเช่น เป็นวันที่ท่านบีมูซา รอดพ้นจากการถูกฟิรอูลตามล่า  และ ท่านนบีนูฮ  ก็ได้รอดพ้นจากน้ำท่วมโลก และอีกหลายๆกรณีที่เกิดขึ้นในเดือน มูฮัรรอม ประชาชนจึงได้จัดงานวันอาชูรอขึ้น เพื่อขอบคุณเชิดชูอัลเลาะห์   ทั้งนี้วันอาชูรอ จะจัดขึ้นทุกปีในเดือนมุฮัรรอม

           สำหรับอาหารที่จัดปรุงมีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน โดยอาหารจะมารวมในกะทะเดียวกัน แล้วใช้ไม้พายปรุง ซึ่งในอดีตเป็นการวบรวมอาหารที่มีเหลือจากภัยพิบัติ นำมารวมกันอาทิเช่น ข้าวสาร  มะสำปะหลัง  มันเทศ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่  ข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วลิสง  ฟักทอง มะพร้าว พริกไทยดำ หัวขิง หัวข่า ตะไคร้ ผักชี  น้ำตาลทราย น้ำตาลแว่น เป็นต้น

          ซึ่งแต่ละครัวเรือนจะมากันคนละถุง แล้วร่วมช่วยกันปรุง หลังจากได้ช่วยกันลงมือปรุงแล้วเสร็จ จะรับประทานร่วมกันทั้งชุมชน 

          “ อาหารที่หลากหลายแต่ละครัวเรือนจะนำมากันเองกันคนละถุง แล้วนำลงปนรวมในกะทะใบเดียวกัน แล้วกวนโดยใช้ไม้พาย  เป็นอาหารพิเศษ เป็นอาหารที่มีเกียรติ  จึงมองให้เห็นถึงปรัชญาที่แท้จริง ”นายสนธยา กล่าว.