การดูแลสุขภาพช่องปากในเดือนรอมฎอน

 โดย ทพญ.อาภาวรรณ นามศิริเลิศ

             สำนักข่าวอะลามี่:  สุขภาพช่องปากเป็นประเด็นหนึ่งทางสุขภาพ ที่มักถูกมองข้ามไป โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน ที่ถึงแม้จะไม่ได้รับประทานอาหารตลอดช่วงเวลากลางวัน

             แต่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาภายในช่องปากเกิดขึ้น เพราะแบคทีเรียยังคงทำงานตลอดเวลาจนอาจก่อให้เกิดปัญหากลิ่นปาก ภาวะปากแห้ง ฟันผุ เหงือกอักเสบ และปัญหาอื่นๆ อาจตามมาได้

             ทางที่ดีที่สุดคือ การป้องกันโดยการตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน โดยหากตรวจพบว่า มีปัญหาฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือ การติดเชื้อภายในช่องปากจากฟันผุ ทะลุโพรงประสาทฟัน หรือฟันคุด ให้รีบทำการรักษาก่อนจะเกิดอาการ ในเดือนรอมฎอน

             ดังนั้นก่อนเข้าเดือนรอมฎอนนี้ ควรไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจเช็คทำความสะอาดเหงือกและฟันให้ดี เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจของเราในเดือนนี้เป็นไปอย่างเต็มที่ และครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด

             ที่สำคัญคือ การแปรงฟันอย่างถูกวิธีร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันหลังรับประทานอาหารซูโฮร์ (อาหารก่อนเช้าตรู่) และหลังการรับประทานอาหารเหลังละศีลอด โดยเฉพาะการแปรงฟันหลังอาหารซูโฮร์ นั้น หลายท่านอาจรีบเข้านอนต่อจนลืมแปรงฟัน หรือรีบแปรงฟันและไม่สะอาด ซึ่งคราบอาหารที่ตกค้างภายในช่องปาก จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ตามมาดังกล่าว

           “ เดือนรอมฎอน ไม่ใช่เดือนของการถ่มหรือบ้วนน้ำลาย หากเราได้ทำความสะอาดภายในช่องปากอย่างดีแล้ว น้ำลายในปากนั้นก็สามารถกลืนได้ตามปกติ โดยไม่เสียศีลอด สมัยก่อนผู้ใหญ่มักบอกเราให้เราบ้วนหรือถ่มน้ำลายทิ้งบ่อยๆ เพราะรู้สึกกังวลว่ามีรสชาติ หรือเศษอาหารตกค้างในช่องปากจนเหมือนว่ากำลังรับประทานอาหารหรือรู้สึกมีกลิ่นปาก เพราะตลอดเวลาจากการบูดเน่าของอาหารที่ตกค้างในช่องปาก ซึ่งแบคทีเรีย จะนำมาใช้จนเกิดกรดทำให้ฟันผุและเหงือกอักเสบ 

             อีกทั้งการถ่มน้ำลาย ยิ่งทำให้เกิดอาการปากแห้ง ซึ่งส่งผลต่อกลิ่นปาก ฟันผุง่าย และเหงือกอักเสบตามมาได้อีก นอกจากนี้การที่ยังคงมีอาหารอยู่ในช่องปากและมีรสชาติต่างๆ ของอาหารตกค้างในปาก อาจทำให้การถือศีลอดของเราเสียไปหรือไม่สมบูรณ์ได้

             นอกจากนี้การเพิ่มการแปรงฟันในเวลากลางวัน รวมถึงการกลั้วปากระหว่างวัน ยังช่วยลดกลิ่นปากจากแบคทีเรียที่สะสมในช่องปากได้ และ ลดอาการปากแห้ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากดังกล่าวได้

             ไม่เพียงเท่านั้น การแปรงฟันยังถือเป็นการปฏิบัติตามแบบอย่างอันดีงามของท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซล.) นั่นคือ ” การแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร และเมื่อจะอาบน้ำละหมาดทุกครั้ง ”

               การทำเช่นนี้ ทำให้เราได้ปฏิบัติตามหลักศาสนา  และยังเป็นการรักษาสุขภาพได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์อีกด้วย

     
              ด้วยความปารถนาดีจาก : คลินิกทันตกรรมฟอร์จูนเดนทัลโฮม
                                                       

ตีพิมพ์ครั้งแรก :นิตยสาร อะลามี่ ฉบับต้อนรับรอมฎอน มิถุนายน 2559