ศอ.บต.นำคณะ เยือนกรุงจาการ์ตา ร่วมมือด้านการศึกษา-ศาสนา-เศรษฐกิจ
         
          สำนักข่าวอะลามี่ :  ศอ.บต. นำคณะผู้บริหาร เยือนกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย  หารือความร่วมมือมิติด้านการศึกษา ศาสนา ภาษามลายู และเศรษฐกิจ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และยกระดับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  



          เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้นำคณะนำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา  อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอาซิส เบ็ญหาวัน  ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  พันเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนจุฬาราชมนตรี  พร้อมด้วย ผู้นำศาสนา  ผู้นำการศึกษา ผู้นำชุมชน  ผู้บริหาร ศอ.บต. รวมทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปร่วมประชุมกับคณะทำงานของกระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซีย  ณ กรุงจาการ์ตาประเทศ อินโดนีเซีย

          การเยือนกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ครั้งนี้เพื่อติดตามผลหลังจากที่ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) รายงานการประชุมระหว่างเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซีย เมื่อเดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมา  

         สำหรับในครั้งนี้ คณะทำงาน (Working group) ศอ.บต.ได้ เยี่ยมคารวะฯพณฯ นาย Suryadharma  Ali  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซีย และประชุมร่วมกับคณะทำงานของกระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซีย โดยมี  Mr.Bahrul Hayat ปลัดกระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซียให้การต้อนรับและเป็นประธานฝ่ายอินโดนีเซีย    

           พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า  ผลการประชุมดังกล่าวได้มีการตกลงว่าจะมีความร่วมมือทางด้านการศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ภาษา และเศรษฐกิจ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้  เรื่องทุนการศึกษา กระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซีย สนับสนุนทุนการศึกษาจำนวน 50 ทุน ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท และระดับปริญญาเอก ในด้านอิสลามศึกษา และสาขาอื่นๆ ใน 6 แห่ง ทั่วสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในปีงบประมาณ 2556 การส่งเสริมด้านสังคมวัฒนธรรม และ ด้านกิจการศาสนา สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนนักวิชาการเผยแพร่ศาสนา นักเผยแพร่ศาสนาสตรี นักอ่านอัล-กุรอา นสตรี ให้เข้าร่วมประชุมมุสลิมะห์ในประเทศกลุ่มอาเซียน ที่จะจัดที่จังหวัดปัตตานี รวมทั้งส่งพระภิกษุมาปฏิบัติธรรมในประเทศไทย
         
          เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า สำหรับการส่งเสริมด้านภาษามลายู  กระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซียสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันภาษามลายู โดยให้มีผู้ทรงความรู้ด้านภาษามลายูมาช่วยในเรื่องการบริหารจัดการ และส่งอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษามลายูมาสอน  ในมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจะส่งสัญญาณรายการโทรทัศน์และวิทยุภาษามลายู  ส่วนการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ยะลา และปัตตานี)  กระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซีย สนับสนุนความร่วมมือทางด้านอุตสาหกรรม  การประมง ความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล  และประสานงานกับหน่วยงานประเทศอินโดนีเซีย  ในการจัดตั้งสมาคมธุรกิจอินโดนีเซีย – กลุ่มธุรกิจภาคใต้ของประเทศไทยด้วย
            
          นอกจากการประชุมร่วมกันระหว่าง กระทรวงกิจการศาสนาอินโดนีเซียกับคณะ ทำงาน (Working group) ศอ.บต.แล้ว  ผู้มาเยือนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้เข้าพบผู้บริหารขององค์กร  Muhammadiyah  และ องค์กร Nadhlatul Ulama ซึ่งเป็นองค์ทางศาสนาอิสลามที่มีขนาดใหญ่ และมีสมาชิกจำนวนมากในประเทศอินโดนีเซีย   \

        Dr.Sudibyo  Makus รองประธาน และฝ่ายต่างประเทศ (Vice President, Internatonal Relations)  องค์กร Muhammadiyah ได้ให้ต้อนรับและกล่าวว่า องค์กร Muhammadiyah มีบทบาทในด้านการพัฒนาการศึกษา  สวัสดิการสังคม สาธารณสุข ได้สร้างผู้นำหลายคนของอินโดนีเซีย และมีบทบาทสำคัญในการสร้างชนชั้นกลางในสังคม รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาค อาทิ เป็นองค์กรประสานงานในกระบวนการสันติภาพที่เกาะมินดาเนา และหวังว่าการให้ทุนการศึกษาแก่ นักเรียนจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง  ในระยะยาว ซึ่งเห็นได้ว่ามีการพัฒนาการที่ดีตามลำดับ จนได้มีการลงนาม MOU ระหว่าง Muhammadiyah   กับ ศอ.บต. ในโอกาสฉลองครบรอบ 100ปี การก่อตั้งองค์กร Muhammadiyah

         ด้าน  Prof. Dr. KH. Said Agil Siraj  ประธาน องค์กร Nadhlatul Ulama กล่าวว่า ยินดีที่จะให้ความร่วมมือแก่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยน  ด้านศาสนา สังคมวัฒนธรรม รวมทั้งการจัดทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งในอดีต NU ได้เคยให้ทุนแล้วด้วย