Food & Healhty
Home   /   Food & Healhty  /   นครศรีฯอัดฉีดงบ4ล้านแก้ปัญหาราคามังคุดตกต่ำ

นครศรีอัดฉีดงบ4ล้านเร่งแก้ปัญหาราคามังคุดตกต่ำ

            สำนักข่าวอะลามี่ : รองผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เรียกประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตมังคุดตกต่ำ  หลังพบว่าปีนี้แนวโน้มราคามังคุดจะตกต่ำ เตรียม4ล้านเข้าพยุงทันทีหากเกษตรกรเดือดร้อน

           นายสุทธิพงศ์ เทิดรัตนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า มีแนวโน้มราคาต่ำลง อันเนื่องมาจากเป็นช่วงหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน และผลผลิตมังคุดได้รับผลกระทบจากกภาวะฝนตก ส่งผลให้มีคุณภาพต่ำลง โดยเบื้องต้นทางจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ร่วมกับ เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน อำเภอลานสกา และใกล้เคียง ได้รวบรวมผลผลิตมังคุด ไปจำหน่ายยังตลาดสุรนคร จังหวัดนครราชสีมา และตลาดมีนบุรี ที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งการประสานงานไปยังผู้ประกอบการค้าส่งผลไม้ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เข้ามารับซื้อผลผลิตมังคุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกระจายผลผลิตและยกระดับราคา ซึ่งได้ผลดีในระดับหนึ่ง

           “นอกจากนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไม้ผลตกต่ำที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา ไว้ 2 แนวทาง คือ การเร่งปรับปรุงคุณภาพไม้ผล ทั้งในส่วนของการจัดฝึกอบรมและให้ความรู้ทางวิชาการแก่เกษตรกร การนำเทคนิคและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่มีความเหมาะสมมาเสนอแนะแก่เกษตรกร รวมทั้งการผลักดันเพื่อให้เกิดการรวมกลุ่ม "นายสุทธิพงศ์ กล่าวและว่า

             ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรสามารถช่วยเหลือและขับเคลื่อนการเชื่อมโยงด้านการตลาดได้ด้วยตัวเอง ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านั้น จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเงินกองทุนหมุนเวียนเพื่อการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาราคาไม้ผลตกต่ำ อยู่จำนวน 4 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาพยุงราคาไม้ผลได้ทันที ที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน

           ส่วนข้อมูลพื้นที่สวนมังคุดในนครศรีธรรมราช มีพื้นที่เพาะปลูกมังคุด รวมทั้งสิ้น 90,665 ไร่ กระจายอยู่ใน19 อำเภอ ของจังหวัด ยกเว้น อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอปากพนัง และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว จำนวน 72,441 ไร่ ยังไม่ให้ผลผลิต จำนวน 18,224 ไร่ ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราชพบว่า ในปี 2553 มีจำนวนผลผลิตมังคุดออกสู่ตลาดทั้งสิ้น 40,785,585 กิโลกรัม โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12.05 บาทต่อกิโลกรัม.