สายการบินเอทิฮัด ดึงเชฟมือหนึ่งร่วมรังสรรค์อาหารบนเครื่องบิน 

            สำนักข่าวอะลามี : สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นำเชฟฝีมือเยี่ยมที่ผ่านการคัดเลือกร่วมรังสรรค์อาหารสุดพิเศษให้กับอาคันตุกะ ผู้ทรงเกียรติที่จะเดินทางในเที่ยวบินชั้นเฟิร์สคลาสสู่ซิดนีย์ -เมลเบิร์น-ลอนดอน และปารีส แล้วอย่างเป็นทางการ และ จะขยายการให้บริการในทุกๆ เที่ยวบิน ที่มีชั้นเฟิร์สคลาสตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2555 เป็นต้นไป

            ตั้งแต่มีการประกาศรับสมัครเชฟในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัด ได้คัดเลือกเชฟกว่า 110 ท่าน ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดและเปี่ยมประสบการณ์ด้านการปรุงอาหารนานาชาติ เพื่อเป็นหัวใจสำคัญในการบริการอาหารชั้นเลิศบนเที่ยวบินชั้นเฟิร์สคลาส โดยเชฟมืออาชีพเหล่านี้ ยังร่วมพัฒนาเมนูอาหาร ที่เสิร์ฟในห้องรับรองและบนเที่ยวบินด้วย

           นอกจากนั้นสายการบินเอทิฮัด ยังได้จัดเตรียมวัตถุดิบชั้นเลิศ อาทิเช่น เนื้อคุณภาพเยี่ยม ซอส ชุดอุปกรณ์เครื่องครัว เครื่องเทศต่างๆ รวมถึงผักสด เพื่อให้บรรดาเชฟสามารถโชว์ฝีมือการปรุงอาหารได้อย่างเต็มที่ไม่ต่างจากการปรุงในภัตตาคาร ซึ่งอุปกรณ์เครื่องครัวบางชิ้นนั้นไม่เคยมีการนำมาใช้บนเครื่องบินมาก่อน เช่น เครื่องตีผสมอาหารและเครื่องทำโฟม 

           ในโอกาสพิเศษนี้ เอทิฮัด ได้ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารสำหรับผู้โดยสารในชั้นเฟิร์สคลาสใหม่ทั้งหมด โดยเมนูใหม่สุดพิเศษจะใช้ชื่อว่า เดอะ เมซูน กริลล์ (The Mezoon Grille)

             เดอะ เมซูน กริลล์ นำเสนอทางเลือกอันหลากหลายแก่อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติที่โดยสารในชั้นเฟิร์สคลาสทุกท่าน โดยสามารถเลือกชนิดเนื้อได้ตั้งแต่ 4 ถึง 6 ชนิด (ขนาดใหญ่ ปริมาณ 160 กรัม ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อแกะ และอาหารทะเล) และสามารถเลือกซอสและเครื่องเคียงได้ตามใจปรารถนา ซึ่งสายการบินเอทิฮัดรับรองว่าเราได้จัดเตรียมเนื้อทุกชนิดเพียงพอสำหรับทุกท่านในทุกๆเที่ยวบิน โดยอาคันตุกะทุกท่านยังสามารถเลือกรสชาติของซอสและเครื่องเคียงได้ โดยเชฟมือหนึ่งของเราพร้อมให้บริการปรุงรสชาติให้ออกมาตามความต้องการของทุกท่าน

          นอกจากนี้เอทิฮัดยังเปลี่ยนเมนูเซ็ทจากแบบ Degustation Menu มาเป็น Taste of Arabia Menu ซึ่งเมนูเซ็ตแบบใหม่นี้ยังคงประกอบไปด้วยอาหาร 6 จาน ซึ่งทุกจานมีรสสัมผัสแบบอาหรับอันเป็นเอกลักษณ์

          สำหรับเมนูอะลาคาร์ท นั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง อาคันตุกะทุกท่านสามารถเลือกอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวานได้ตามประสงค์ อย่างไรก็ตามอาหารทุกจานจะได้รับการรังสรรค์ให้ตรงกับความชอบของทุกท่านโดยเชฟประจำเที่ยวบิน

           มร. ลี เชฟ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของเอทิฮัดกล่าวว่า “ด้วยเชฟประจำชั้นเฟิร์สคลาส รวมถึงผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มประจำชั้นธุรกิจ สายการบินเอทิฮัดสามารถประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าเรามีบุคคลากรในการรังสรรค์รสชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการการบิน

          "เรายกระดับประสบการณ์ด้านอาหารบนเที่ยวบิน โดยการดึงผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมาให้บริการบนเครื่องบิน ไม่ใช่ใช้บุคคลากรที่เชี่ยวชาญด้านการบริการบนเครื่องบินมาปรุงอาหาร จึงถือได้ว่าเอทิฮัดได้สร้างมาตรฐานใหม่แก่วงการสายการบิน และเรายังมุ่งมั่นที่จะให้บริการอาหารชั้นเลิศ ที่จะสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารบนเครื่องบินและห้องรับรองก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งน่าประทับใจไม่แตกต่างจากการรับประทานในภัตตาคารชั้นนำ”

            เชฟของเราเป็นเชฟมืออาชีพซึ่งผ่านการฝึกฝนจากสถาบันด้านการทำอาหารที่เป็นที่ยอมรับ เชฟทุกท่านมีประสบการณ์การทำงานในโรงแรมหรือร้านอาหาร 5 ดาวมาแล้วอย่างน้อย 6 ปี อย่างไรก็ตามเชฟส่วนใหญ่ที่ร่วมงานกับเราต่างมีประสบการณ์การทำอาหารมานานนับ 10 ปี ทั้งนี้มีเชฟจำนวนมากที่ผ่านงานจากร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินอีกด้วย