สำนักข่าวอะลามี่: ไทย-มาเลย์ จับมือวางมาตรการคุมเข้มชายแดน หลังโจรใต้ป่วนหนัก จนส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทรุและการค้าชายของ 2 ประเทศทรุด
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 พ.ย. 54 ที่ห้องประชุมด่านศุลกากร อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในฐานะเสนาธิการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะ ได้ประชุมร่วมกับคณะของ พลจัตวามูฮัมหมัดซากรี บินหะยีฮัมเยาะ ผบ.กองพลทหารราบที่ 8 รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อวางมาตรการคุมเข้มชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ หลังจากที่กองกำลังติดอาวุธ RKK ได้ลอบก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ชายแดนด้านอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองรันตูปันหยัง จนส่งผลทำให้เศรษฐกิจด้านการค้าระหว่างประเทศทั้ง 2 ทรุดหนัก
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดความไม่ไว้วางใจของพ่อค้าแม่ค้า ไม่กล้าเดินทางไปมาหาสู่กัน รวมทั้งการวางมาตรการในการตรวจสอบบุคคลที่ใช้ช่องทางข้ามขนสินค้าหนีภาษี ตามแนวพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 50 ช่องทาง ในการสกรีนบุคคลต้องสงสัย ที่ในอดีตและปัจจุบันมักใช้ช่องทางข้ามดังกล่าวหลบหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยแล้วเสร็จ โดยการประชุมในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ซึ่งในที่ประชุมมีมติร่วมกันว่า เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศ ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติ ที่ต้องมีการประชุมร่วมกันทุกๆ1เดือน โดยเฉพาะข้อมูลประวัติบุคคลต้องสงสัยและบุคคลตามหมายจับ ต้องมีการแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางข้ามผิดกฎหมายให้รับทราบด้วย เพื่อง่ายในการตรวจสอบบุคคล และในอนาคตช่องทางข้ามที่มีมากกว่า 50 ช่องทาง ต้องค่อยๆดำเนินการให้เป็นช่องทางข้ามที่ถูกกฎหมาย
โดยเรื่องดังกล่าวนี้เป็นผลดีของทั้ง 2 ประเทศ ที่จะทำให้เศรษฐกิจเมืองชายแดนมีการพัฒนาที่ดีขึ้น แถมเงินของทั้ง 2 ประเทศจะสะพัด อันเป็นผลให้พลเมืองของทั้ง 2 ประเทศ มีการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นบันไดก้าวแรกแห่งยุทธศาสตร์ความเจริญขับไล่ความล่าหลัง ที่นำไปสู่ความหายนะของกลุ่มคนร้ายที่ไม่สามารถที่จะแฝงตัวเคลื่อนไหวหลบหนีตามช่องทางข้ามต่างๆเข้าไปกบดานในเมืองต่างๆของรัฐกลันตันได้อีกต่อไป
ต่อมาเมื่อประชุมแล้วเสร็จ คณะของ พล.อ.ศิริชัย เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก รวมทั้งการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบบุคคลที่เดินผ่านเข้าออกระหว่างประเทศทั้ง 2